หมอดูมั่ว!!บางคนกับการไม่สนใจกาลกิณีในชื่อ

        ในเรื่องการตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อนั้น ช่วงนี้ชักจะได้ยินหนาหูขึ้นจากที่ลูกศิษย์ลูกหาเล่าให้ฟังน่ะครับ ว่า บางสำนัก หรือบางนักพยากรณ์การตั้งชื่อ บอกว่า กาลกิณีไม่สำคัญ มีในชื่อก็ได้ อักษรไทยพ่อขุนรามคำแหงคิดตัวอักษรไทยขึ้น เป็นชื่อมงคลทุกตัว ใครว่าตัวอักษรไทยเป็นกาลกิณีถือว่าลบหลู่ท่าน  ซึ่งไปกันใหญ่ครับ คนละเรื่องคนละแนวคิดเลย เอามาผสมปนเปเออออกันเองเสียหายไปหมด ไม่รู้ว่าแนวคิดนี้โผล่มาได้อย่างไร และเป็นถึงนักพยากรณ์ไม่เอามาปนเปกันเช่นนี้ หรือจะเป็นเหลือบไรวงการนักพยากรณ์หากินกับความไม่รู้ของคนกันแน่
       เมื่อกี้สดๆร้อนลูกศิษย์ใหม่ เพิ่งเจอเว็บอาจารย์ เข้าโทรมาคุยกับอาจารย์บอกว่า 3 ปีแล้วเปลี่ยนชื่อมากับที่ที่นึง อยู่แถวบาง..บางอะไรไปใส่เอานะครับ แถบชานเมืองใกล้จังหวัดอื่นที่ติดกทม. หมอดูมั่วคนนี้ให้ชื่อมา 5 ชื่อ แล้วไม่ถามวันเดือนปีเกิดซักคำ กาลกิณีไม่สนใจ มีในชื่อได้ไม่เป็นไร แล้วจะเอาอะไรเป็นแกนให้ชื่อเชื่อมโยงดวงชะตาล่ะ หลักมหาทักษาเป็นศาสตร์แรกๆที่คนเรียนโหรไทยควรจะเรียนรู้ แต่นี่อย่าว่าแต่เรียกเหลือบไรในวงการ ทำให้คนอื่นๆพาลคิดว่าวิชาเรื่องเกี่ยวกับชื่อไม่ได้ผล วิชาเหล่านี้ได้ผลจริง เพียงแต่ที่ผ่านมาคุณดันไปเจอพวกเหลือบไรวงการ ไม่มีความรู้เรื่องโหราศาสตร์ชื่อจริงๆมันเลยทำออกมาได้ผล เรียกว่า ดูผิดหมอ หาผิดตัวนั่นเองครับ กาลกิณีเป้นหลักสำคัญอันดับแรกที่ควรยึดเลยนะครับว่าไม่ให้มีในชื่อ และเปลี่ยนชื่อทุกครั้งต้องใช้วันเดือนปีเกิด ไม่ใช่ตั้งชื่อมาแล้วใช้ได้กับทุกคนไม่ต้องใช้วันเดือนปีเกิดแบบนี้ผิดนะครับ
          หลักว่าด้วย เรื่องมหาทักษาจะบอกว่าตัวอักษรบางตัวจะเป็นกาลกิณีคือไม่ถูกโฉลกกับเจ้าชะตาแตกต่างกันไปในแต่ละวันเกิด ช่น วันอาทิตย์ห้ามมี ศ ส ษ ฆ ฬ อ ฮ วันจันทร์ห้ามมีสระ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการที่เทียบมหาทักษานับกาลกิณีในวันเกิดแต่ละวัน แล้วจะเป็นการไปลบหลู่ท่าน เปรียบชื่อที่มีกาลกิณีในวันเกิดว่าเหมือน น้ำกับน้ำมันมันไม่เข้ากัน ถ้านำมารวมกันจะไม่เป็นประโยชน์ไม่เป็นผลดี ไม่ได้ว่าตัวอักษรเป็นกาลกิณี ไม่ได้ว่าวันเกิดเป็นกาลกิณี แต่ถ้าตัวอักษรจับคู่กับวันตามตำราไม่ถูกต้อง สิ่งที่เกิดขึ้นคือกาลกิณี  พ่อขุนรามคำแหงท่านทรงมีคุโณปการทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้นดังปรากฎในศิลาจารึก เราไม่ได้ไปว่าว่าตัวอักษรท่านว่าไม่ดี แต่หมายถึงถ้าเทียบตามหลักโหราศาตร์แล้ว อธิบายตามตำราได้แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดเอามาผสมปนเปหรือมีความคิดแปลกๆแบบนี้ได้ มหาทักษาเป็นพื้นฐานของการตั้งชื่อ เรียกว่า เป็นรัฐธรรมนูญของตำราเลยก้ว่าได้ครับ หากสูตรใดวิชาใด ค้านกับหลักนี้เป็นอันตกไปใช้ไม่ได้ หลักมหาทักษายังมีในเนื้อหาของตำราพรหมชาติ ซึ่งเรียกว่าเป็นหนังสือครู ต้นแบบโหราศาสตร์หลายๆแขนง บางส่วนก็มีในตำราพิชัยสงคราม ซึ่งพระมหากษตริย์ไทยใช้ตำราพิชัยสงครามรบทัพจับศึกชนะข้าศึกศัตรูมานักต่อนักแล้วครับ ในตำราพรหมชาตินั้น ถ้ามีวิชาไหนไม่แน่จริง ไม่ขลังจริง เชื่อถือได้จริงคงไม่ถูกนำมาใส่ไว้ เพราะเป็นต้นแบบตำรานักพยากรณ์เลยก็ว่าได้ ขนาดตำราพรหมชาติยังมีบรรุจุเรื่องของมหาทักษากาลกิณีไว้เลย แล้วเหตุใดจึงมีบางคนไม่เชื่อถือแล้วบอกกาลกิณีไม่สำคัญ แล้วโยงไปอ้างกับองค์พ่อขุนรามคำแหงซึ่งคนละเรื่องคนละอย่างก้ยังเอามาโยงกันได้ ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อกับใครก็พิจารณาดีๆนะครับ เจอบางสำนัก บางอาจารย์คิดเองเออเองผสมกันปนเปกันมั่วไปหมดแล้วเปลี่ยนชื่อไปจะไม่ดีขึ้นเพราะชื่อใหม่กาลกิณีเพียบเลยครับ